การดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง

ต้องบอกเลยว่าปัจจุบันโรคหลอดเลือดสมองนั้นเป็นโรคที่หลายๆ คนต้องเผชิญกัน บางคนอาจจะมีบุพการีป่วยด้วยโรคนี้ บางคนอาจจะเจ็บป่วยด้วยโรคอื่นๆ ที่ตามมาภายหลัง แต่อย่างไรก็ดี หากว่าใครที่ต้องทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยหลอดเลือดสมองมาดูพร้อมๆ กันดีกว่าว่าจะมีหลักการในการดูแลอย่างไรดีไม่ให้กลับมาเป็นอีก พร้อมแล้วมาดูกันเลย  1.คุมอาหาร  หลักการกินอาหารเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ป่วยด้วยโรคนี้ ซึ่งปัจจัยสำคัญล้วนแล้วมาจากอาหารเป็นหลัก คนดูแลที่มีหน้าที่ในการหามื้ออาหารดีๆ และมีประโยชน์ให้กับผู้ป่วย ก็ควรที่จะเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น การกินถั่วซึ่ง มีไขมันดี ทำให้ร่างกายไล่ไขมันตัวร้ายออกไปได้แบบไม่ยากเย็นแต่อย่างใด รวมไปถึงการกินอาหารเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หรือจะเน้นกินเนื้อปลาก็มีประโยชน์ต่อร่างกายได้อีกเช่นกัน   2.เน้นการออกกำลังกาย  สำหรับคนที่เคยป่วยด้วยโรคสโตรคและสามารถรักษาให้หายขาดได้ ก็ควรจะเน้นไปที่การออกกำลังกายด้วย ไม่จำเป็นต้องออกอย่างหนักหน่วงแต่อย่างใด  แต่ควรเน้นให้เหมาะสมกับสุขภาพร่างกาย หากทำควบคู่ไปกันกับการกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ก็จะยิ่งช่วยให้น้ำหนักไม่เกินมาตรฐานที่กำหนด อีกทั้งยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงโดยรวมอีกด้วย  3.ในคนป่วยโรคเบาหวาน  สำหรับคนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานนั้น เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าบางครั้งอาจจะมีภาวะน้ำตาลเกิน และทำให้หลอดเลือดแข็ง พาสู่ปัจจัยเสี่ยงของโรคเส้นเลือดสมองได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับคนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานและเป็นสโตรคด้วยนั้น  คนที่ดูแลควรเน้นใส่ใจในการคุมน้ำตาลให้ได้มากที่สุด เพื่อลดปัญหาของอาการป่วยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมนั้นแข็งแรงขึ้นอีกด้วย  4.ไม่สูบบุหรี่  ปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับคนที่ป่วยด้วยโรคสโตรคและหายแล้วก็คือมักหวนกลับไปสูบบุหรี่อีก ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอาการตีบซ้ำได้นั่นเอง ดังนั้นจึงควรที่จะเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาดไม่ว่าจะกี่มวนก็ตาม นานๆ ครั้งหรือว่าเป็นใบจากก็ไม่ควรอีกเช่นกัน เนื่องจากจะทำให้เกิดโรคซ้ำได้นั่นเอง  และนี่ก็คือวิธีป้องกันและดูแลไม่ให้ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองนั้นกลับมาเป็นอีก คนที่ทำหน้าที่ดูแลนั้นควรใส่ใจดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ไม่กลับมาเป็นซ้ำ อันส่งผลให้สุขภาพหรือคุณภาพชีวิตแย่ลงนั่นเอง ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองหากว่าได้รับการดูแลดีๆ ก็อยู่ได้อีกนานเลยทีเดียว